Pages

Friday, June 4, 2010

PET-CT

ในปัจจุบันได้มีการรวมเครื่อง PET และ CT ไว้ในเครื่องเดียวกัน  โดย PET จะให้ภาพที่แสดงถึงขบวนการทางชีววิทยาและเมตาบอลิสมที่เกิดขึ้น ในขณะที่ CT จะให้ข้อมูลทางกายวิภาคทำให้บอกได้ว่าพยาธิสภาพนั้นมีขนาด รูปร่าง และตำแหน่งอยู่ในร่างกายส่วนใด การรวมข้อมูลของภาพถ่ายทางกายวิภาคและเมตาบอลิสมเข้าด้วยกัน (co-registration) ทำให้สามารถกำหนดตำแหน่งของพยาธิสภาพได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งแยกได้ว่าตำแหน่งที่มีการจับสารเภสัชรังสีนั้นอยู่ในอวัยวะปกติ (physiologic uptake) หรือเป็นตำแหน่งที่มีพยาธิสภาพ (pathological uptake) ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยระยะของโรคมะเร็งทั้ง staging และ restaging บอกถึงการพยากรณ์โรค และประเมินประสิทธิภาพของการรักษา วินิจฉัยการกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง รวมทั้งประเมินการตอบสนองของโรคต่อการรักษา นอกจากนี้แพทย์ทางรังสีรักษาสามารถนำภาพจาก PET/CT มาใช้ในการวางแผนการรักษาด้วยการฉายรังสี (radiation therapy treatment planning) ทำให้กำหนดตำแหน่งการฉายรังสี (contour maps) ให้ครอบคลุมรอยโรคได้อย่างถูกต้อง

No comments:

Post a Comment